Author: admin

วัดนันตาราม  วัดเก่าแก่ UNSEEN  แห่งเมืองพะเยาที่ต้องไปเยือน

วัดนันตาราม  วัดเก่าแก่ UNSEEN  แห่งเมืองพะเยาที่ต้องไปเยือน

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดที่มีวัดวาอารามเยอะเป็นอันดับต้นๆของประเทศ แต่ละแห่งมีชื่อเสียง มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถาปัตยกรรมสวยงามไม่แพ้วัดในจังหวัดอื่นๆและหนึ่งใน UNSEEN ของอำเภอเชียงคำ บอกเลยว่าจะต้องไปให้ได้เมื่อไปท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา วัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดนันตาราม

วัดนันตาราม หรือวัดม่าน ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด แต่ในปี พ.ศ. 2467 วัดนันตารามได้ทำนุบำรุงโดยพ่อตะก่านันตา อู๋ วงศ์อนันต์ ได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันปรับปรุง ทำการจ้างช่างจากพม่ามาออกแบบก่อสร้าง ความโดดเด่นของวัดนันตารามนั้นคือ วิหารที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่า

ภายในวิหารยกเป็น 3 ชั้น เสาในวิหารมีทั้งหมด 68 ต้น ลงรักปิดทอง 64 ต้น เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตร ศิลปะแบบมัณฑะเลย์ การปฏิสังขรณ์ ก่อสร้างใช้เวลานับ 10 ปี เป็นกุศลยิ่งใหญ่ และได้รับการยกย่องจากชาวบ้าน จึงเปลี่ยนชื่อจากวัดม่านให้เป็น “วัดนันตาราม”  เป็นการรำลึกถึงความดีและเป็นเกียรติแด่ตระกูล “วงศ์อนันต์”

นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์ 25 ศตวรรษสร้างเมื่อปี 2500 ,พิพิธภัณฑ์สะสมของโบราณ,และปราสาท ส.อุไร ที่ประดิษฐานขององค์พระแม่กวนอิมอีกด้วย วัดสวย สงบ ร่มเย็น ใครเดินทางไปพะเยา อย่าลืมแวะไปกราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสริมงคลกันนะ 

—————–

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/A5ssxtxyBiHjCFps6


คลิปเต็ม “เที่ยวพะเยา ถึงจะผิดพลาด..แต่ไม่เหงา เราไปไหนมาบ้าง”

ตลาดหัวตะเข้ ตลาดที่ยังมีมนต์ขลัง ในกรุงเทพฯ

ตลาดหัวตะเข้ ตลาดที่ยังมีมนต์ขลัง ในกรุงเทพฯ ผมมีโอกาสได้ผ่านไปย่านลาดกระบัง จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวแถวนั้น จนกระทั่งไปเจอย่านตลาดเก่า ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจ หลังจากเสร็จธุระเลยปักหมุดไปยัง “ตลาดหัวตะเข้” ตลาดเก่าที่ยังคงมีมนต์ขลัง

เมื่อปักหมุดลง Google map เรียบร้อย ออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟหัวตระเข้ ขับผ่านหอสมุดแห่งชาติและจอดรถไว้ที่วิทยาลัยศิลป ต่อด้วยเดินเท้าไปยัง “ชุมชนหลวงพรต-ท่านเหลี่ยม” เป็นทางเดินขนาดเล็กของชุมชนและเป็นที่อยู่อาศัยของชาวหัวตะเข้เดินผ่านเข้าไปจนเจอตลาด

พอเข้ามาแล้ว ตลาดดูเงียบ คนไม่พลุกผล่าน  มีร้านอาหาร มีมุมเช็คอิน ให้ได้ถ่ายรูปเป็นระยะ ความยาวของตลาดหัวตะเข้ไม่ยาวมาก มีระยะทางประมาณ 300 เมตร เลียบขนาดไปกับคลองประเวศบุรีรมณ์ ในตลาดเป็นชุมชนเก่า อาคารบ้านเรือน ยังคงสภาพวินเทจแบบสมัยก่อน มีร้านขายอาหาร ขายของเล่น ขายขนมแบบดั่งเดิม

ถึงแม้ร้านสองข้างทางในตลาดไม่เยอะมาก แต่หลายๆร้าน เต็มไปด้วยรอยยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยวและที่สำคัญอร่อยเกือบทุกร้าน บ้างร้านติดริมน้ำ นั่งกินไปด้วย ชมคลองไปด้วย (บอกเลยคลองไม่ดำ ไม่เหม็นเหมือนที่อื่น) แถมมีลมพัดโชยเบาๆ อยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ตลอดเส้นระยะทางของตลาดหัวตะเข้ มีนักท่องเที่ยว มีนักปั่นจักรยาน จับกลุ่มนั่งพักตามจุดต่างๆ เม้ามอยส์ ถ่ายรูป เป็นอีกหนึ่งตลาดใกล้กรุงที่ได้ฟิลย้อนยุคแบบ “ออเจ้า”


⭐⭐อย่าพลาด!เมื่อมาเยือนตลาดนี้⭐⭐

  • – ก๋วยเตี๋ยวโรงกลึง โดยเฉพาะเมนู เกี๊ยวกุ้งน้ำใสและเกี๊ยวทอด มันถูกใจผมมาก
  • – กาแฟมินต์@ร้าน ณ ลาดกระบัง กาแฟหอม นั่งจิ๊บพร้อมกับวิวคลองประเวศบุรีรมณ์ที่อยู่ตรงหน้า มันได้ฟิลจริงๆ
  • – นั่งเล่นริมน้ำ เดินหายเหนื่อยพักขา พักกาย ได้ที่สี่แยกหัวตะเข้ พร้อมกับถ่ายรูปสะพานข้ามคลองในชุมชน
  • – ถ่ายรูป เช็คอิน กับ Street Art ภาพวาดที่คนในชุมชนตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมา

—————–

พิกัด : https://maps.app.goo.Gl/4Y6yfxRnySvH7dh56


น้ำตกเหวอีอ่ำ ฉ่ำปอด ออกตามหาน้ำตกลับที่ปิดมานานกว่า 7 ปี

น้ำตกเหวอีอ่ำ ฉ่ำปอด ออกตามหาน้ำตกลับที่ปิดมานานกว่า 7 ปี

ในทริบนี้ผมเดินทางไปอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ไปตามหาน้ำตกที่ปิดมานานกว่า 7 ปี จริงๆแล้วไม่ได้ปิดจนนักท่องเที่ยวเข้าไม่ได้ เพียงแต่ไม่เปิดให้เข้าไปเองโดยลำพัง ใครจะไปจำเป็นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ หรือ ต้องจองล่วงหน้าเอาไว้ น้ำตกแห่งนี้จะต้องเดินเท้าเข้าไป เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรและมีชื่นว่า “น้ำตกเหวอีอ่ำ

                หลังจากได้ทำการติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไว้แล้ว พอถึงวันนัดหมาย ให้ปักหมุดลงใน GOOGLE MAP ออกเดินทางไปจุดนัด นั้นคือ แก่งคลองช้างคลาน เมื่อไปถึงต้องทำการลงทะเบียน ฟังข้อกำหนดในการเดินเข้าไป พอฟังเสร็จ รวบรวมพลครบทีม เจ้าหน้าที่จะขับรถไปส่งยังจุดเริ่มเดิน การเดินขึ้นไปเจ้าหน้าที่จะแบ่งกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 10 คน แต่ละกลุ่มก็มีเจ้าหน้าที่ดูแล เส้นทางเข้าไปนั้นไม่ยาก ถือว่าง่ายด้วยซ้ำ เพราะเส้นทางเป็นคอนกรีตผสมกับทางลูกรัง แต่จะมีความชันขึ้นเรื่อยๆ ใครไม่ใช่สายออกกำลังกายก็ไปได้

                ระหว่างทางของเส้นทางไปยังน้ำตกเหวอีอ่ำ เป็นป่าไผ่ ป่าหวาย มีลมพัดบ้างเป็นระยะ เห็นสัตว์เล็กๆ ตามทาง เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าวันไหนเงียบสงบมากๆ อาจจะได้เห็น นกเงือก ก็เป็นไปได้ เส้นทางในช่วง 4 กิโลเมตรแรก เป็นทางเนินขึ้น บวกกับทางราบนิดหน่อย ใครไม่ไหวก็เดินไป พักไป ไม่ต้องรีบ เมื่อใกล้ถึงน้ำตก 800 เมตรสุดท้าย จะเป็นเส้นทางราบ ข้อควรระวังในเส้นทางเดิน นั้นคือ ยุงดุมาก แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันและพก soffell ติดไปฉีดด้วย

(หรือซื้อจาก link สินค้านี้ได้เลย : https://s.lazada.co.th/s.PCen1  เป็นสเปรย์ไล่ยุง แมลง กันตัวคุ่นกัด ได้รับการยอมรับและเลือกใช้จากเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานหลายแห่งเลยนะ)

                พอไปถึงจะได้เห็นลำธารที่ไหลมาจาก แก่งคลองช้างคลาน ไหลลัดเลาะจากภูเขา ผ่านโขดหินต่างๆ ไปยังหน้าผา ในจุดนี้สามารถลงเล่นน้ำ ชมวิว ถ่ายรูปได้ แต่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะหน้าผาไม่มีอะไรกั้นเลยนะ จุดนี้จะเป็นที่พักทานข้าวกลางวันและพักเหนื่อยก่อนที่จะไปจุดชมน้ำตกเหวอีอ่ำต่อไป

                หนังท้องตึงหนังตาห้ามหย่อนนะ เพราะภารกิจยังไม่เรียบร้อย หลังจากพักทานข้าวแล้ว เราจะปืนลงไปยังจุดชมน้ำตกข้างล่างกัน โดยทางลงไปนั้นค่อนข้างชันพอสมควร จะต้องปืน ผ่านหิน ผ่านหน้าผา ผ่านรากต้นไม้ใหญ่ ในจุดนี้เองต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล (อาจจะเป็นเพราะหน้าผาและความชันของจุดลงไปชมน้ำตก ทำให้ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยลำพัง) เมื่อลงไปถึงจะได้เห็นความงามของสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากความสูง 25 เมตร เป็นม่านน้ำสวยงาม เสียงน้ำตก ละอองน้ำที่กระเซ็น มันทำให้การเดินเท้าไปนั้นหายเหนื่อย ตรงจุดนี้ก็สามารถลงแช่น้ำ เล่นน้ำได้นะ แต่อย่าเข้าไปใกล้น้ำตก เพราะความแรงของน้ำที่ไหลลงมา กับหินใต้น้ำ มีความลื่นและคมมาก อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้


⭐⭐ข้อแนะนำ⭐⭐

1.จะขึ้นไปต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปเอง

2.สามารถกางเต็นท์ค้างคืนได้หรือจะไปแบบ One Day Trip ก็ได้

3.พกน้ำ เตรียมเสบียงให้พร้อม ไม่มีร้านค้าระหว่างทาง

4.อย่ามั่วแต่ถ่ายรูปเพลิน เพราะเส้นทางน้ำไหลลงไปเป็นหน้าผา

5.ด้านบนไม่มีห้องน้ำ ถ้าทนไม่ไหวก็เข้าป่า

6.ที่นี้ยุงดุมาก อย่าลืมสเปย์กันยุงด้วย

7.ทางลงไปน้ำตกเหวอีอ่ำ ไม่มีบันได ต้องไต่เชือกลงไปและค่อนข้างอันตราย!

8.ห้ามลงเล่นน้ำใกล้สายน้ำตก น้ำลึก น้ำแรงและหินคมมาก!

—————–

พิกัด https://maps.app.goo.gl/4Y6yfxRnySvH7dh56


ติดต่อสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  กำนันพรเทพ  ไกรสิงห์ 081-157-7871

คลิปเต็ม “เที่ยวปราจีนบุรีออกตามหาน้ำตกลับที่ปิดมานานกว่า 7 ปี”

น้ำตกสลัดได น้ำตกลับกลางป่า บนเส้นทางหุบเขาตีนไก่

น้ำตกสลัดได น้ำตกลับกลางป่า บนเส้นทางหุบเขาตีนไก่

เมื่อพูดถึงน้ำตกใกล้กรุง หลายๆคนจะคิดถึงน้ำตกในจังหวัดนครนายก เช่น น้ำตกสาริกา น้ำตกคลองมะเดื่อ น้ำตกวังตะไคร้  น้ำตกนางรอง เป็นต้น  แต่มีอีกน้ำตกที่อยู่ในจังหวัดนครนายกเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นน้ำตกลับในป่า หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือ หลายคนอาจจะเข้าไปเกือบถึงแล้ว แต่ไม่ได้เดินทางต่อเข้าไป น้ำตกแห่งนี้ เป็นอีก 1 ใน 3 เส้นทางของหุบเขาตีนไก่ มีชื่อว่า “น้ำตกสลัดได”  

น้ำตกสลัดได ตั้งอยู่ในตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา ตำบลนี้จะมีน้ำตกมีชื่อเสียงอย่าง “น้ำตกกระอาง” หลายคนเคยไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่า น้ำตกสลัดได นั้นก็อยู่ที่นั่น การเดินทางไปยังน้ำตกสลัดได จะต้องเดินเข้าไป 2.5 กิโลเมตร สามารถจอดรถไว้ที่น้ำตกกระอางหรือลานเพาะชำกล้าไม้ไว้ได้เลย เส้นทางทางเดินเข้าไปในช่วงแรกเป็นทางคอนกรีต ประมาณ 1 กิโลเมตร

หลังจากนั้นจะเป็นทางหินลอย มอเตอร์ไซต์สามารถขับขึ้นไปได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเส้นทางจะค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับหลังเต่าและเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้เข้าป่าไปหาของป่า ระหว่างทางมีป้ายบอกเป็นระยะๆ มีพันธ์ไม้นานา สัตว์เล็กๆ ให้ได้ชม

เส้นทางระยะสุดท้ายก่อนถึงน้ำตกสลัดได จะเป็นทางลงเนิน  เส้นทางแคบและจะต้องเดินผ่านลำธาร ในช่วงฤดูฝน เส้นทางเละลื่น ควรใช้รองเท้าที่มีพื้นยางเกาะ  เข้าไปถึงจะได้พบกับน้ำตกไหลลงมาตามชั้นหิน สลับกัน ก่อเกิดความสวยงามเป็นม่านน้ำ  น้ำเย็นชุ่มฉ่ำ ความงดงามของสายน้ำและวิวที่อยู่ตรงหน้า ทำให้การเดินเท้าเข้ามาหายเหนื่อย เป็นน้ำตกลับที่น่าค้นหาและไม่ยากแก่การเดินเข้าไป

ปล.ใครจะเข้าไปอย่าลืมสอบถามกับชาวบ้านก่อนนะครับว่ามีน้ำตกมีน้ำไหม เพราะน้ำตกแห่งนี้จะสวยที่สุดคือ ช่วงหน้าฝน

—————–

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/xjZwMqDefXaFLox79


คลิปเต็ม “บุกหุบเขาตีนไก่ตามหาน้ำตกสลัดได นครนายก พิชิตเขาหัวหมวก”

เขาหัวหมวก UNSEEN แห่งจังหวัดนครนายกใกล้กรุงเทพ

เขาหัวหมวก UNSEEN แห่งจังหวัดนครนายกใกล้กรุงเทพ

ในทริบนี้ผมจะพาไปเดินป่าใกล้กรุงเทพ แบบ ONE DAY TRIP ไม่ต้องจอง ไม่ต้องซื้อทัวร์ ขับรถจากกรุงเทพไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเองและที่แห่งนี้คือ “เขาหัวหมวก” จังหวัดนครนายก

เขาหัวหมวก คือ 1 ใน 3 เส้นทางของ หุบเขาตีนไก่ที่นักวิ่งเทรลเดินทางไปซ้อมวิ่ง เนื่องจากจะใกล้เมืองกรุงแล้ว ที่นี้ยังคงความเป็นธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยว ให้เดินทางเข้าไปเยือน ใครไม่ใช่นักวิ่งก็ไปเที่ยวได้

ผมเดินทางจาก กทม ปักหมุดไปยัง “น้ำตกกระอาง” ซึ่งจะเป็นสถานที่เริ่มเดิน แต่ถ้าใครไม่เดินก็สามารถเล่นน้ำพักผ่อนตรงนี้จุดนี้ได้เลย เมื่อไปถึง ให้จอดรถตรวงสถานทีเพาะชำกล้าไม้ เตรียมน้ำ เตรียมเสบียงให้พร้อมจากร้านขายของในชุมชน 

เส้นทางการเดินขึ้นไปเขาหัวหมวกนั้น ในช่วงแรกจะเป็นทางชุมชน เป็นทางชาวบ้านที่ใช้สัญจรเข้าไปในป่า เส้นทางจะชันขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2 กิโลเมตรแรกเดินง่าย จะผ่านจุดพักร้านน้ำ ร้านกาแฟ ใครเหนื่อก็แวะพักที่นี้ก่อนได้ อ๋อ แต่เปิดแค่เสาร์-อาทิตย์นะ วันธรรมดาเจ้าของไร่ ไปทำสวนจ้า

เมื่อเข้าสู่ 1 กิโลเมตรสุดท้าย เดินผ่านลำธารไปแล้ว ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ แบบ 75 องศา เส้นทางเป็นป่าไผ่ เดินลำบากนิดหน่อย ระหว่างทางก็มีเชือกให้ได้จับปีนป่ายขึ้นไป ถ้าช่วงไหนฝนตก จะลื่นมาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน ควรใช้รองเท้าทีมีพื้นยึดเกาะ ไม่ควรใส่รองเท้าแตะไปเดิน

พอไปถึงจะพบกับความอัจรรย์ ของหินรูปทรงคล้ายตะปูตั้งอยู่บนหน้าผา ด้านบนเป็นหินก้อนเล็กคล้ายหมวก (เหมือนกับหินทรงตะปูนี้ใส่หมวกอยู่) ซึ่งหินทั้งสองตั้งอยู่ โดยไม่มีท่าจะร่วงหล่นลงไป  ด้านข้างของหินก้อนใหญ่ มีภาพเขียนสีโบราณ ที่มีอายุกว่า 3000 ปี รับรองโดยกรมศิลปกรแล้วนะข้างบนอากาศดี เป็นเส้นทางลมทำให้ที่นี้มีลมพัดตลอด และได้เห็นวิวแบบ 180 องศาโดยไม่มีอะไรมากั้นอีกด้วย

หลังจากรับลม ชมวิว ศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว ให้เดินลงเขามาอีกทาง ไปชมต้นไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านใกล้ลำธาร บอกเลย จุดนี้ถ่ายรูปสวย

ใครกำลังหาเส้นทางศึกษาธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ เดินทางไป-เช้าเย็นกลับ หรือ สายเดินป่ามือใหม่ แนะนำให้ไปเลย

—————–

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/xZ9e2UviqJ77E5H47

______


คลิปเต็ม “บุกหุบเขาตีนไก่ตามหาน้ำตกสลัดได นครนายก พิชิตเขาหัวหมวก”

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอจังหวัดแม่ฮ่องสอนบานแล้ว

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอจังหวัดแม่ฮ่องสอนบานแล้ว

เมื่อถึงเดือน พ.ย. ของทุกปี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดงานชม ทุ่งดอกบัวตอง ซึ่ง 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว ดอกบัวตองจะบานสะพรั่งช่วงเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม  พื้นที่กว่า 500 ไร่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 เมตรและเป็น ทุ่งดอกบัวตอง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ


เมื่อบานเต็มที่จะเหลืองอร่ามทั่วภูเขา ถือเป็น UNSEEN ที่ครั้งหนึ่งจะต้องไปให้ได้  ในปี 2566 นี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 พ.ย. และจัดงานเทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอในวันที่ 11 พฤศจิกายนยาวไปยังเดินธันวาคม ซึ่งดอกบัวตองจะค่อยบานขึ้นเรื่อยๆสามารถอัปเดตการบานของดอกบัวตอง ทาง เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ หากความคืบหน้าอย่างไร จะรีบมาอัปเดตให้นะ


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sZjkTcC3zhVm5z5f9

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า